แบบทดสอบหลังเรียน
1. เนื้อเยื่อเจริญ (Meristem tissue) มีลักษณะอย่างไร
ก. ไม่มีแวคิวโอล
ข. นิวเคลียสมีขนาดเล็ก
ค. มีช่องว่างระหว่างเซลล์
ง. เซลล์มีชีวิต สามารถแบ่งตัวได้
2. เมื่อเกิดพายุฝนและลมแรงทาให้ต้นข้าวในนาล้มและเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 วัน จะพบว่ายอดต้นข้าวจะมีการเจริญเติบโตตั้งตรงเป็นปกติ เกิดจากการทางานของเนื้อเนื้อเจริญในข้อใด
1. เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลาย 2. เนื้อเยื่อเจริญเหนือข้อ 3. เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง
ก. 1
ข. 2
ค. 1 และ 2
ง. 1, 2 และ 3
3. เนื้อเยื่อเจริญด้านข้างส่งผลให้พืชเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ก. เกิดวงปี
ข. ยืดยาวออก
ค. มีเปลือกไม้
ง. สร้างเนื้อไม้เพิ่มขึ้น
4. อ้อยและชบา มีเนื้อเยื่อเจริญชนิดใดเหมือนกัน
ก. เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง
ข. เนื้อเยื่อเจริญเหนือข้อ
ค. เนื้อเยื่อเจริญส่วนท้าย
ง. เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลาย
5. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยวที่ได้ชื่อว่าเนื้อเยื่อพื้นฐานของพืช (Ground tissue) คือ
ก. Parenchyma
ข. Collenchyma
ค. Sclerenchyma
ง. Chlorenchyma
6. พืชพวกใดมีการเจริญเติบโตขั้นที่สอง
ก. อ้อย
ข. ข้าวโพด
ค. ทานตะวัน
ง. พุทธรักษา
7. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยวที่สาคัญในการสร้างแป้ง และน้าตาลให้แก่พืช คือ
ก. Parenchyma
ข. Collenchyma
ค. Sclerenchyma
ง. Chlorenchyma
8. เซลล์ที่อยู่ชั้นนอกสุด ประกอบด้วยเซลล์เรียงตัวเพียงชั้นเดียว ผนังเซลล์บาง ไม่มีคลอโรพลาสต์ คือ
ก. Cortex
ข. Epidermis
ค. Parenchyma
ง. Chlorenchyma
9. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยวแตกต่างจากเนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนอย่างไร
ก. เกิดจากเซลล์เซลล์เดียวมาทาหน้าที่อย่างเดียว
ข. เกิดจากเซลล์ชนิดเดียวกันหลายเซลล์มาทาหน้าที่ร่วมกัน
ค. เกิดจากเซลล์หลายๆ ชนิดอยู่บริเวณเดียวกันจึงทาหน้าที่ร่วมกัน
ง. เกิดจากเซลล์หลายๆ ชนิดที่มีโครงสร้างเหมือนกันจึงมาทาหน้าที่ร่วมกัน
10. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ vessel member
ก. เป็นเซลล์ที่ตายแล้ว
ข. ช่วยค้าจุนพืชให้แข็งแรง
ค. เป็นท่อลาเลียงน้าและอาหารที่พืชสร้างขึ้น
ง. ผนังเซลล์หนาเพราะมีสารลิกนินสะสมมาก
ก. ไม่มีแวคิวโอล
ข. นิวเคลียสมีขนาดเล็ก
ค. มีช่องว่างระหว่างเซลล์
ง. เซลล์มีชีวิต สามารถแบ่งตัวได้
2. เมื่อเกิดพายุฝนและลมแรงทาให้ต้นข้าวในนาล้มและเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 วัน จะพบว่ายอดต้นข้าวจะมีการเจริญเติบโตตั้งตรงเป็นปกติ เกิดจากการทางานของเนื้อเนื้อเจริญในข้อใด
1. เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลาย 2. เนื้อเยื่อเจริญเหนือข้อ 3. เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง
ก. 1
ข. 2
ค. 1 และ 2
ง. 1, 2 และ 3
3. เนื้อเยื่อเจริญด้านข้างส่งผลให้พืชเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ก. เกิดวงปี
ข. ยืดยาวออก
ค. มีเปลือกไม้
ง. สร้างเนื้อไม้เพิ่มขึ้น
4. อ้อยและชบา มีเนื้อเยื่อเจริญชนิดใดเหมือนกัน
ก. เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง
ข. เนื้อเยื่อเจริญเหนือข้อ
ค. เนื้อเยื่อเจริญส่วนท้าย
ง. เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลาย
5. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยวที่ได้ชื่อว่าเนื้อเยื่อพื้นฐานของพืช (Ground tissue) คือ
ก. Parenchyma
ข. Collenchyma
ค. Sclerenchyma
ง. Chlorenchyma
6. พืชพวกใดมีการเจริญเติบโตขั้นที่สอง
ก. อ้อย
ข. ข้าวโพด
ค. ทานตะวัน
ง. พุทธรักษา
7. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยวที่สาคัญในการสร้างแป้ง และน้าตาลให้แก่พืช คือ
ก. Parenchyma
ข. Collenchyma
ค. Sclerenchyma
ง. Chlorenchyma
8. เซลล์ที่อยู่ชั้นนอกสุด ประกอบด้วยเซลล์เรียงตัวเพียงชั้นเดียว ผนังเซลล์บาง ไม่มีคลอโรพลาสต์ คือ
ก. Cortex
ข. Epidermis
ค. Parenchyma
ง. Chlorenchyma
9. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยวแตกต่างจากเนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อนอย่างไร
ก. เกิดจากเซลล์เซลล์เดียวมาทาหน้าที่อย่างเดียว
ข. เกิดจากเซลล์ชนิดเดียวกันหลายเซลล์มาทาหน้าที่ร่วมกัน
ค. เกิดจากเซลล์หลายๆ ชนิดอยู่บริเวณเดียวกันจึงทาหน้าที่ร่วมกัน
ง. เกิดจากเซลล์หลายๆ ชนิดที่มีโครงสร้างเหมือนกันจึงมาทาหน้าที่ร่วมกัน
10. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ vessel member
ก. เป็นเซลล์ที่ตายแล้ว
ข. ช่วยค้าจุนพืชให้แข็งแรง
ค. เป็นท่อลาเลียงน้าและอาหารที่พืชสร้างขึ้น
ง. ผนังเซลล์หนาเพราะมีสารลิกนินสะสมมาก
ร่าา
ตอบลบ2
ลบงคขกกงกขกก
ลบงคขกกงกขกก
ลบงคขกกงกขกก
ลบงคขคกงกขขก
ลบงคขกกงกขกก
ลบ